บทสรรเสริญ

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์ตี้จั้งหวัง หรือ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ แปลว่าพระโพธิสัตว์ผู้เป็นครรภ์แห่งแผ่นดินหรือเป็นนัยยะว่าพระองค์ ทรงสถิต อยู่ใต้พื้นพิภพ

เพราะพระองค์มีมหาปณิธานว่า "ตราบใดที่ยังมีสัตว์หลงเหลือในนรกภูมิ แม้เพียงหนึ่ง พระองค์จะมิทรงเข้าสู่พุทธภูมิ" ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสัตว์ในนรกนั้น มีจำนวนมากมายกว่าประชากรบนสวรรค์ และโลกมนุษย์มาก เนื่องจาก คนทำชั่วมีมากกว่าคนทำดี ด้วยพระองค์ทรงประกาศ มหาปณิธานที่ยิ่งใหญ่ และยากยิ่งที่จะสำเร็จได้ สาธุชน จึงสดุดีพระองค์ว่า "พระมหาปณิธานโพธิสัตว์ " และพระวจนะหนึ่ง ของพระองค์ ที่เป็นที่ซาบซึ้ง ประทับใจ สรรพสัตว์ทั้งปวง ว่า " หากเรามิเข้าสู้นรกภูมิแล้วไซร้ ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้เข้านรกภูมิ "

ตามประวัติกล่าวว่า ท่านเดิมมีพระนามว่า กิมเคียวกัก ประสูติวันที่ 30 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน พ.ศ. 1239 เป็นมกุฎราชกุมาร แห่งราชอาณาจักร ชินลอก๊ก (ปัจจุบันคือกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้) เจ้าชายเคียวกักทรงผนวชเมื่ออายุ 24 ชันษา ในปีพ.ศ.1196 พระองค์ท่านชอบความสงบและการนั่งฌานสมาธิ จึงตัดสินใจไปแสวงหาความสงบปลีกวิเวกตามป่าเขา โดยนั่งเรือ ตามลำพัง กับสุนัขแสนรู้สีขาว (ชื่อว่า ซ่านทิง) แล่นเลียบไปตามชายฝั่งจนถึงปากแม่น้ำแยงซีเกียงในประเทศจีน เนื่องจากเรือเกยตื้น จึงสละเรือแล้วเดินเท้า กระทั่งถึงเขตอำเภอชิงหยางเสี้ยน มณฑลฮุยเสิ่น ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของภูเขาจิ่วหัวซัน อันมี ทัศนียภาพ แปลกประหลาดด้วยมีพื้นที่ราบอยู่กลางหุบเขา เจ้าชายกิมเคียวกัก จึงเลือกปากถ้ำแห่งหนึ่ง ใกล้ที่ราบ เป็นที่พำนัก ที่เชิงเขามีคหบดีคนหนึ่งชื่อหมิ่นกง เป็นเจ้าของที่ดินบริเวณเขาจิ่วหัวซัน หมิ่นกงเป็นคน ใจบุญสุนทาน ต้องการจะถวายที่ดินเพื่อสร้างธรรมสถาน จึงขึ้นเขาไปหาเจ้าชายกิมเคียวกัก แล้วแจ้งความประสงค์ จะถวายที่ดิน ให้สร้างธรรมสถานโปรดสัตว์ตามแต่ที่เจ้าชายกิมเคียวกักต้องการ ทันใดนั้นเจ้าชายกิมเคียวกัก ก็ได้โยนผ้า พระกาสาวพัสตร์ ขึ้นไป ในอากาศ ก็ปรากฏว่ามีร่มเงา ของผ้ากาสาวพัสตร์ทั้งผืน แผ่ปกคลุมไปทั่วภูเขา จิ่วหัวซัน หมิ่นกงจึงได้ถวายที่ดินภูเขาทั้งลูกให้แก่เจ้าชายด้วยความยินดี

หมิ่นกง มีบุตรชายคนหนึ่งซึ่งมีความศรัทธาในท่านอาจารย์ กิมเคียวกัก เป็นอย่างมากจึงได้ขอบวชนาม พระเต้าหมิง ต่อมา หมิ่นกงเล็งเห็นว่า เป็นการสะดวก ในการฟังธรรม จึงปวารณาเป็นศิษย์ของลูกชาย วันหนึ่งเจ้าชายกิมเคียวกัก ได้เรียกพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปมาชุมนุมเพื่ออำลา แต่บรรดาพระภิกษุสงฆ์ต่างไม่เข้าใจว่า ท่านจะไปไหน เจ้าชายกิมเคียวกักได้แต่นั่งขัดสมาธิอย่างสงบ และ ละสังขารในที่สุด ตอนนั้นท่านมีอายุได้ 99 พรรษา แล้วนั่งสงบไปอีก 20 ปี จนถึงปี พ.ศ. 1300 ร่างของท่านก็ยังคงอยู่ในท่าสมาธิ เกิดเป็นอัศจรรย์ บรรดาสาธุชนจึงได้รวบรวมปัจจัยสร้างเจดีย์ขึ้น เจ้าชายกิมเคียวกักนี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็น พระกษิติครรภโพธิสัตว์ (เต่จงอ๋อง) มาโปรดสัตว์แล้ว

มิคติความเชื่อที่มิถูกต้องยิ่งนักที่ว่า "พระกวนอิมโปรดเฉพาะคนเป็น พระตี่จั้งโปรดเพาะคนตาย" ทำให้ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (พระตี่จั้ง) ไม่เป็นที่นิยมกราบไหว้ในครัวเรือน เพราะผู้ไม่รู้เข้าใจว่า จะเป็นการชักนำ ดวงวิญญาณ ให้ตามพระองค์เข้ามาในบ้านด้วย โดยที่แท้แล้วเมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงแสดง อานิสงค์แห่งการบูชา พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไว้ถึง 28 ประการคือ

  1. เทพนาคาปกปักษ์รักษาและระลึกถึงอยู่เป็นนิจ
  2. กุศลผลบุญเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นทุกทิวากาล
  3. เป็นการสร้างสมอริยมรรคเป็นสมุกฐาน ทั้งยังถือเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรม
  4. ไม่ท้อถอยในการบังเกิดโพธิจิต
  5. สมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดกาล
  6. แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ
  7. รอดพ้นจากอุทกภัย อัคคีภัย
  8. นิราศจากโจรภัยมาเบียดเบียน
  9. เป็นที่เคารพยกย่องของนรชนไปทั่ว
  10. เทพารักษ์คุ้มครองอุ้มชูช่วยเหลืออยู่เสมอ
  11. สตรีปรารถนากลับเพศเป็นบุรุษ
  12. เกิดในตระกูลวงศาแห่งกษัตริย์และอำมาตย์
  13. มีรูปอินทรีย์ กายอินทรีย์สมบูรณ์
  14. ได้อุบัติในแดนสวรรค์
  15. ภพหน้าจะได้กำเนิดเป็นพระมหาราชาธิราช
  16. สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์ในอดีตชาติ
  17. คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดั่งปรารถนา
  18. ญาติและบริวารเสวยแต่ความสุขปราศจากทุกข์
  19. สิ่งอัปมงคลทั้งหลายสูญหายมลายสิ้น
  20. ไม่ต้องบังเกิดในทุคติภูมิ
  21. หากสัญจรไป ณ แห่งใดย่อมได้รับความสะดวก
  22. ในยามราตรีย่อมมีสุบินในทางศุภมงคล
  23. บรรพบุรุษและญาติวงศ์ที่ล่วงลับไปแล้วจะได้หลุดพ้นจากทุกขภูมิ
  24. กำเนิดในภพหน้าจะเป็นผู้มีวาสนาสูง
  25. ได้รับการยกย่องจากพระอริยเจ้าทั้งหลาย
  26. มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ
  27. มีจิตเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมเป็นสมุฏฐาน
  28. จะได้สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด

คุณธรรมพิเศษ
มีเมตตาสูงส่ง เป็นโพธิสัตว์ที่มีปณิธานที่จะโปรดสัตว์นรกให้พ้นจากกรรมทุกข์เข็ญ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
พระ กษิติครรภโพธิสัตว์ แปลตรงตัวหมายความถึง ที่เก็บหรือครรภ์แห่งผืนแผ่นดิน พระองค์ท่านมีปณิธานคล้ายคลึงกับ พระแม่กวนอิม แต่ผิดไปจากพระแม่กวนอิม ก็คือ พระองค์ท่านต้องการที่จะโปรดสัตว์ที่มีอยู่ในนรกให้หมด ฉะนั้น ในพิธีศพ จึงนิยมบูชาท่าน จึงกลายเป็นความเชื่อที่ว่างานศพจะต้องบูชาท่าน ส่วนพิธีมงคล นิยมบูชา พระแม่กวนอิม กระทั้งเกิดคำว่า “พระกวนอิมโปรดคนเป็น เต่จงอ๋องโปรดคนตาย” ซึ่งความจริง ท่านก็โปรดคนเป็น เช่นเดียวกัน กับพระแม่กวนอิม
ปาง
โดย มากรูปเคารพของท่านมักจะสวมหมวกสีขาวซึ่งเรียกว่า “มาลา 5 พระพุทธองค์” ซึ่งหมวกนี้เป็นของ พระชาวธิเบต ประกอบพิธีทางมนตรยานนิกาย ในการโปรดสัตว์นรก โดยที่ท่านมีปณิธานโปรดสัตว์นรกมาก จิตรกรจึงมัก นิยมวาดภาพท่าน เป็นพระที่กำลังสวมหมวก และประกอบพิธีโปรดสัตว์นรกไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น