บทสรรเสริญ

วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553

พระโพธิสัตว์กวนอิม 84 ปาง ต่อ

6.gif

6. หม่อฮอเกียลูหนี่เกียเย
นี่คือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปรากฏเป็นอัศวโฆษโพธิสัตว์ ตรัสรู้เอง หลุดพ้นเอง
คำว่า เกียลู แปลว่า กรุณา
คำว่า หนี่เกีย แปลว่า จิต
คำว่า เย แปลว่า คารวะ
ทั้งประโยค แปลว่า คารวะต่อมีมหากรุณาจิต สรุปว่า เมื่อเพ่งเห็นรูปและลักษณะโลกเป็นสูญ ความทุกข์ก็จะดับเอง  ข้ามไปถึงฝั่งหลุดพ้นได้ประโยคนี้ เตือนให้ผู้ปฏิบัติต้องปล่อยวางจิตและกาย หลีกพ้นจากภาพลวงทั้งหลาย ไม่มีลักษณะแห่งมนุษย์ ไม่มีลักษณะแห่งตน จิตใจผ่องใสลดความโลภของตน ผู้ปฏิบัติต้องสามารถปล่อยวาง ลืม อารมณ์ใดๆ ได้ปฏิบัติอยู่ต่อเนื่องกัน ก็สามารถบรรลุ ถึงต้นน้ำของมหามรรค

7.gif

7. งัน (โอม)
นี่เป็นราชาแห่งเทพ ต้องพนมมือฟังคาถานี้ พุทธเจ้าทุกองค์ล้วนเพ่งคำนี้และบรรลุสัมมาสัมพุทธิ
คำว่า งัน แปลว่า นอบน้อม
เป็นมารดาแห่งธารณีทั้งหลาย เป็นมูลฐานดั้งเดิมของมนุษย์ พระโพธิสัตว์นำสัจธรรมอันเป็นความสูญที่แท้จริง ปลุกให้มนุษย์ ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงธรรมอันไม่เป็นสองมนตร์ของ นิกายคุยหยาน (นิกายลับ) ใช้คำนี้มาก มีความหมายว่า น้อมนอบ บูชา ถวาย ปลุกให้ตื่น ฝึก ธรรมกาย นิรมาณกาย สัมโภคกาย ถ้าชาวโลกถือสัจธรรมนี้ ทวยเทพและภูต ผีจะพนมมือคารวะและปกปักษ์รักษา พ้นจากภยันตราย สำเร็จในมรรคผล แต่ผู้ปฏิบัติจะต้องตั้งมั่นอยู่ในศีล และต้องมีความสมบูรณ์ในบุญวาสนา ประกาศพระธรรมอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลก จึงจะได้ผล

8.gif

8. สัตพันลาฮัวอี
นี่คือรูปองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปรากฎเป็นจตุโลกาบาลเทพราชกาย โปรดพวกมารด้วยบารมี 6
คำว่า สัตพันลา แปลว่า อิสระ
คำว่า ฮัวอี แปลว่า องค์อริยะ
ทั้งประโยค แปลว่า องค์อริยอันอิสระ สัตพันลาฮัวอี หมายถึง ใจกายสะอาด เหล่ามารมาทำร้ายไม่ได้ จะให้ใจกายบริสุทธิ์ ต้องตั้งใจอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติทางกายให้อยู่ในศีล ประโยคนี้ เป็นคาถาที่ พระโพธิสัตว์สอนให้ผู้ปฏิบัติ จะต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ แก้ความผิดมาเป็นกุศลกรรม เป็นทางที่จะเข้าถึงธรรมมรรคผู้ปฏิบัติธรรม จะต้องกวาดล้างความโลภทางกายใจให้หมดสิ้น จึงจะเกิดปัฐฐา ได้ และได้รับการคุ้มครองจากจตุโลกาบาลเทพราช

9.gif

9. ซูตันนอตันแซ
นี่คือรูปองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปรากฏเป็นจตุโลกาบาลพร้อมกับเจ้าผีปีศาจ ในบังคับบัญชา เพื่อให้มนุษย์เลิกทำบาปหันไปทำความดี
คำว่า ซูตันนอตันแซ หมายถึง การปฏิบัติธรรม ต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ถือความเพียรเป็นเครื่องมือ เพื่อบรรลุถึงความสัจจริง
ทั้งประโยค หมายถึง เพื่อให้อริยะใช้ความอภินิหารปกปักษ์รักษา ตักเตือนมนุษย์ให้ตั้งใจมุ่งไปทางธรรม พยายามกำจัดความเคยชินต่อการต่อการทำบาป ถ้าการปฏิบัติไม่ประกอบด้วย ความสัจ ก็เท่ากับไม่เข้าใจ เมื่อเข้าใจ ก็จะเห็นความปลอดโปร่ง เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีการกลับกลายไปในทางที่ดี ฉะนั้น การปฏิบัติด้วยความสัจ จึงได้รับการคุ้มครองจากจตุโลกาบาลเทพเจ้าและทวยเทพทั้งหลาย

10.gif

10. นำมอสิดกิตหลี่ตออีหม่งออหลี่เย
นี่คือ รูปองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ปรากฎเป็นรูปพระนาคารชุนโพธิสัตว์ คุ้มครองผู้ปฏิบัติ ปราบปรามเหล่าศัตรูคู่อริ
คำว่า สิตกิตหลี่ตออีมง แปลว่า ถ้าคนเราสามารถปฏิบัติธรรม ย่อมได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้า และโพธิสัตว์ 
คำว่า ออหลี่เย แปลว่า การปฏิบัติธรรม จะใจร้อนเพื่อได้ผลทันทีไม่ได้
ทั้งประโยค แปลว่า น้อมนอบต่อพระอรียะ ฉะนั้น ผู้ปฏิบัติต้องมี ความมานะ พากเพียร มีจิตใจมั่นคง อันหนึ่ง อันเดียว เร่งรีบไม่ได้ ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงพระคัมภีร์ หมั่นในการปฏิบัติ ตามหลักธรรม ประกอบด้วยคิดจะข้ามพ้นจากโลกีย์วิสัย คิดจะทำประโยชน์แกสรรพชีวิต เช่นนี้ ก็จะมีโพธิสัตว์วัชรธร คอยปกปักษ์รักษาการกระทำไม่มีขัดข้อง มีความสะดวกเหมาะสมความปรารถนาทุกประการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น